
การเดินสายไฟฟ้าในท่อโลหะหนา ท่อโลหะหนาปานกลาง และท่อโลหะบาง
- ข้อกำหนดการติดตั้ง
- ในสถานที่เปียก ท่อโลหะและส่วนประกอบที่ใช้ยึดท่อโลหะ เช่น สลักเกลียว (Bolt) สแตรป (Strap) สกรู (Screw) เป็นต้น ต้องเป็นชนิดที่ทนต่อการผุกร่อน
- ปลายท่อที่ถูกตัดออกต้องลบคม เพื่อฟ้องลันไม่ให้บาดฉนวนของสาย การทำ เกลียวท่อต้องใช้เครื่องทำเกลียวชนิดปลายเรียว มยผ. 4502-51: มาตรฐานงานเดินสายไฟฟืาทั่วไป ข้อต่อ (Coupling) และข้อต่อยึด (Connector) ชนิดไม่มีเกลียวต้องต่อให้แน่น เมื่อ ฝังในอิฐก่อหรือคอนกรีตต้องใช้ชนิดฝังในคอนกรด (Concrete Tight) เมื่อติดตั้งใน สถานที่เปียกต้องใช้ชนิดกันฝน (Rain Tight)
- การต่อสาย ให้ต่อไต้เฉพาะในกล่องต่อสายหรือกล่องจุดต่อไฟปาที่สามารถเปิด ออกไต้สะดวก ปริมาตรของสายและฉนวน รวมทั้งหัวต่อสายเมื่อรวมกันแล้วต้อง ไม่เกินร้อยละ 75 ของปริมาตรภายในกล่องต่อสายหรือกล่องจุดต่อไฟปา
- การติดตั้งท่อร้อยสายเข้ากับกล่องต่อสาย หรือเครื่องประกอบการเดินท่อต้องจัดให้ มีบุชชิงเพื่อปองกันไม่ให้ฉนวนใงุ้มสายชำรุดยกเว้น กล่องต่อสายและเครื่อง ประกอบการเดินท่อที่ไต้ออกแบบเพื่อปองกันการชำรุดของฉนวนไว้แล้ว
- ห้ามทำเกลียวกับท่อโลหะบาง
- มุมดัดโค้งระหว่างจุดดึงสายรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 360องศา
- ห้ามใช้ท่อโลหะบางฝังดินโดยตรงหรือใช้ในระบบไฟปาแรงสูง หรือที่ซํ่งอาจเกิดความ เลียหายหลังการติดตั้ง
- ห้ามใช้ท่อโลหะขนาดเล็กกว่า 15 มิลลิเมตร
- ท่อที่ขนาดใหญ่กว่า 15 มิลลิเมตร หากร้อยสายชนิดไม่มีปลอกตะกั่ว รัศมีดัดโค้งต้านในของ ท่อต้องไม่น้อยกว่า 6 เท่าของขนาดเล้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ถ้าเป็นสายไฟปาชนิดมีปลอก ตะกั่ว รัศมีดัดโค้งต้านในต้องไม่น้อยกว่า 10 เท่าของเล้นผ่านศูนย์กลางของท่อ สำหรับท่อ ขนาด 15 มิลลิเมตร หากร้อยสายชนิดไม่มีปลอกตะกั่ว รัศมีดัดโค้งต้านในของท่อต้องไม่น้อย กว่า 8 เท่าของเล้นผ่านศูนย์กลางของท่อ และล้าเป็นสายไฟฟ้าชนิดมีปลอกตะกั่ว รัศมีดัดโค้ง ต้านในต้องไม่น้อยกว่า 12 เท่า ของเล้นผ่านศูนย์กลางของท่อ การดัดโค้งต้องไม่ทำให้ท่อ ชำรุดเลียหาย
- ต้องติดตั้งระบบท่อให้เสร็จก่อน จึงทำการเดินสายไฟปา
- การเดินสายด้วยท่อโลหะไปยังบริกัณฑ์ไฟปา ควรเดินด้วยท่อโลหะโดยตลอดและช่วงต่อ สายเข้าบริภัณฑ์ไฟฟ้าควรเดินด้วยท่อโลหะอ่อน หรือใช้วิธีการอื่นตามที่เหมาะสม
- ห้ามใช้ท่อโลหะเป็นตัวนำสำหรับต่อลงดิน
- ขนาดกระแสของสายไฟปาให้ใช้ค่ากระแสตามตารางที่9และ 10และตัวคูณลดค่ากระแส เนื่องจากมีจำนวนสายหลายเล้นในช่องเดินสายไฟฟ้าเดียวกันตาม
- ท่อร้อยสายต้องยึดกับที่ให้มั่นคงด้วยอุปกรณ์จับยึดที่เหมาะสม โดยมีระยะห่างระหว่างจุดจับ ยึดไม่เกิน 3.0 เมตร และห่างจากกล่องต่อสาย หรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่เกิน 0.9 เมตร
- การเดินสายในท่อโลหะอ่อน (Flexible Metal Conduit)
- ลักษณะการใช้งานต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทุกข้อดังนี้
- ในสถานที่แห้ง
- ในที่เข้าถึงได้ และเพื่อป้องกันสายจากความเสียหายทางกายภาพ หรือเพื่อการเดินซ่อนสาย
- ให้ใช้สำหรับเดินเข้าบริภัณฑ์ไฟฟ้าหรือกล่องต่อสายและความยาวไม่เกิน 2 เมตร
- ห้ามใช้ท่อโลหะอ่อนในกรณีดังต่อไปนี้
- ในปล่องลิฟต์หรือปล่องขนของ
- ในห้องแบตเตอรี่
- ในบริเวณอันตราย นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- ฝังในดินหรือฝังในคอนกรีต
- ห้ามใช้ในสถานที่เปียก นอกจากจะใช้สายไฟฟ้าชนิดที่เหมาะสมกับสภาพการติดตั้ง และในการติดตั้งท่อโลหะอ่อนต้องป้ องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในช่องร้อยสายที่ท่อโลหะอ่อนนี้ต่ออยู่
- ห้ามใช้ท่อโลหะอ่อนที่มีขนาดเล็กกว่า 15 มิลลิเมตร ยกเว้นท่อโลหะอ่อนที่ประกอบมากับขั้วหลอดไฟและมีความยาวไม่เกิน 1.80 เมตร
- จำนวนสายไฟฟ้าสูงสุดในท่อโลหะอ่อนต้องเป็นไปตามที่กำหนดในตารางที่ 3, 4 และ 5
- มุมดัดโค้งระหว่างจุดดึงสายรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 360 องศา
- ต้องติดตั้งระบบท่อให้เสร็จก่อน จึงทำการเดินสายไฟฟ้ า
- ห้ามใช้ท่อโลหะอ่อนเป็นตัวนำสำหรับต่อลงดิน
- ระยะห่างระหว่างอุปกรณ์จับยึดต้องไม่เกิน 1.50 เมตร และห่างจากกล่องต่อสายหรืออุปกรณ์ต่างๆ ไม่เกิน 0.30 เมตร
- ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กำหนด
- ลักษณะการใช้งานต้องเป็นไปตามข้อกำหนดทุกข้อดังนี้
- การเดินสายในท่ออโลหะแข็ง (Rigid Nonmetallic Conduit)ท่ออโลหะแข็งและเครื่องประกอบการเดินท่อต้องใช้วัสดุที่เหมาะสม ทนต่อความชื้นสภาวะอากาศ และสารเคมี สำหรับท่อที่ใช้เหนือดินต้องมีคุณสมบัติต้านเปลวเพลิง (Flame-Retardant) ทนแรงกระแทกและแรงอัด ไม่บิดเบี้ยวเพราะความร้อนภายใต้สภาวะที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้งาน ในสถานที่ใช้งานซึ่งท่อร้อยสายมีโอกาสถูกแสงแดดโดยตรงต้องใช้ท่อร้อยสายชนิดทนต่อแสงแดด สำหรับท่อที่ใช้ใต้ดินวัสดุที่ใช้ต้องทนความชื้น ทนสารที่ทำให้ผุกร่อนและมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะทนแรงกระแทกได้โดยไม่เสียหาย ถ้าใช้ฝังดินโดยตรงโดยไม่มีคอนกรีตหุ้ม วัสดุที่ใช้ต้องสามารถทนน้ำหนักกดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังการติดตั้งได้
- อนุญาตให้ใช้ท่ออโลหะแข็งในกรณีดังต่อไปนี้
- เดินซ่อนในผนัง พื้นและเพดาน
- ในบริเวณที่ทำให้เกิดการผุกร่อนและเกี่ยวข้องกับสารเคมีถ้าท่อและเครื่องประกอบการเดินท่อได้ออกแบบไว้สำหรับใช้งานในสภาพดังกล่าว
- ในที่เปียกหรือชื้นซึ่งได้จัดให้มีการป้ องกันน้ำเข้าไปในท่อ
- ในที่เปิดโล่ง (Exposed) ซึ่งไม่อาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ
- การติดตั้งใต้ดินโดยต้องเป็นไปตามที่กำหนด
- ห้ามใช้ท่ออโลหะแข็งในกรณีดังต่อไปนี้
- ในบริเวณอันตราย นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- ใช้เป็นเครื่องแขวนและจับยึดดวงโคม
- อุณหภูมิโดยรอบหรืออุณหภูมิใช้งานของสายเกินกว่าอุณหภูมิของท่อที่ระบุไว้
- ในโรงมหรสพ นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- เมื่อเดินท่อเข้ากล่องหรือส่วนประกอบอื่นๆ ต้องจัดให้มีบุชชิงหรือมีการป้องกันไม่ให้ฉนวนของสายชำรุด
- ห้ามใช้ท่ออโลหะแข็งที่มีขนาดเล็กกว่า 15 มิลลิเมตร
- จำนวนสายไฟฟ้าในท่ออโลหะแข็งต้องไม่เกินตามที่กำหนด
- มุมดัดโค้งระหว่างจุดดึงสายรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 360 องศา
- ต้องติดตั้งระบบท่อให้เสร็จก่อน จึงทำการเดินสายไฟฟ้ า
- ขนาดกระแสของสายไฟฟ้าให้เป็นไปตามที่กำหนด
- อนุญาตให้ใช้ท่ออโลหะแข็งในกรณีดังต่อไปนี้
การเดินสายไฟฟ้าในรางเดินสาย (Wireways)
อนุญาตให้ใช้รางเดินสายได้เฉพาะการติดตั้งในที่เปิดโล่ง (Exposed) ยกเว้นการติดตั้งในพื้นที่ปิ ดที่สามารถเข้าถึงได้เพื่อการตรวจสอบและการบำรุงรักษาตลอดความยาวของรางเดินสาย ถ้าติดตั้งภายนอกอาคารต้องเป็นชนิดกันฝน (Rain Tight) และต้องมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะไม่เสียรูปภายหลังการติดตั้งและต้องเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- ห้ามใช้รางเดินสายในบริเวณที่อาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ ในบริเวณที่มีไอที่ทำให้ผุกร่อน หรือในบริเวณอันตราย นอกจากจะระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- พื้นที่หน้าตัดของตัวนำและฉนวนทั้งหมดรวมกันต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของพื้นที่หน้าตัดภายในรางเดินสาย
- ขนาดกระแสของสายในรางเดินสายให้ใช้ค่ากระแสเช่นเดียวกันกับกรณีท่อโลหะ
- จุดปลายรางเดินสายต้องปิด
- รางเดินสายต้องจับยึดอย่างมั่นคงแข็งแรงทุกระยะไม่เกิน 1.50 เมตร แต่ยอมให้จุดจับยึดห่างมากกว่า 1.50 เมตร ได้ในกรณีที่จำเป็น แต่ต้องไม่เกิน 3.00 เมตร
- รางเดินสายในแนวดิ่งต้องจับยึดอย่างมั่นคงแข็งแรงทุกระยะไม่เกิน 4.50 เมตร ห้ามมีจุดต่อเกินหนึ่งจุดในแต่ละระยะจับยึด จุดจับยึดต้องห่างจากปลายรางเดินสายไม่เกิน 1.50 เมตรด้วย
- ห้ามต่อรางเดินสายตรงจุดที่ผ่านผนังหรือพื้น
- อนุญาตให้ต่อสายเฉพาะในส่วนที่สามารถเปิ ดออก และเข้าถึงได้สะดวกตลอดเวลาเท่านั้นและพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ และฉนวนรวมทั้งหัวต่อสายรวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 75 ของพื้นที่หน้าตัดภายในของรางเดินสาย ณ จุดต่อสาย
- ห้ามใช้รางเดินสายเป็นตัวนำสำหรับต่อลงดิน
- ในรางเดินสายตรงตำแหน่งที่ต้องมีการดัด งอสาย เช่น ปลายทาง ตำแหน่งที่มีท่อร้อยสายเข้า-ออกรางเดินสาย ต้องจัดให้มีที่ว่างสำหรับดัดงอสายอย่างเพียงพอ และมีการป้องกันไม่ให้มี ส่วนคมที่อาจบาดสายได้
- การเดินสายในแนวดิ่งต้องมีการจัดยึดสาย